คำอธิบาย
Veuve Clicquot Brut ไม่ได้เป็นเพียงแค่แชมเปญ แต่ยังเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์และนวัตกรรมในวงการไวน์ แบรนด์นี้ถูกก่อตั้งในปี 1772 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยคุณภาพระดับโลก สัญลักษณ์ฉลากสีเหลืองอันโดดเด่นทำให้ Veuve Clicquot เป็นที่รู้จักทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นแชมเปญที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส ตั้งแต่การเฉลิมฉลองจนถึงการดื่มเพื่อผ่อนคลาย
รางวัลและคะแนนที่ได้รับ (Reward & Score)
ได้รับการจัดอันดับสูงจากนักวิจารณ์ไวน์ระดับโลก เช่น
- Wine Spectator: 92 คะแนน
- Robert Parker: 90 คะแนน
การันตีคุณภาพที่นักดื่มไวน์ทั่วโลกเชื่อมั่น
ประวัติความเป็นมา (History)
Veuve Clicquot ก่อตั้งขึ้นโดย Philippe Clicquot ในปี 1772 โดยชื่อ “Veuve” ซึ่งแปลว่า “แม่หม้าย” ในภาษาฝรั่งเศส มาจาก Madame Barbe-Nicole Ponsardin ผู้เป็นผู้บุกเบิกแบรนด์หลังจากการเสียชีวิตของสามี เธอเป็นบุคคลสำคัญที่นำพาแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และเป็นผู้พัฒนากระบวนการ “riddling” ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญในการผลิตแชมเปญ
Veuve Clicquot Brut ถูกผลิตในแคว้นแชมเปญ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแชมเปญคุณภาพเยี่ยม โดยแบรนด์นี้มุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบจากไร่องุ่นระดับ Grand Cru และ Premier Cru
วิธีการผลิตและแหล่งกำเนิด (Production & Origin)
ผลิตจากการผสมผสานองุ่น 3 สายพันธุ์ ได้แก่
- Pinot Noir: สร้างโครงสร้างและความเข้มข้น
- Chardonnay: เพิ่มความสดชื่นและความหอม
- Pinot Meunier: เสริมความสมดุลและผลไม้
หลังจากการหมักครั้งแรก (First Fermentation) จะมีการบรรจุขวดและทำการหมักครั้งที่สอง (Second Fermentation) ในขวดตามกรรมวิธีดั้งเดิม (Méthode Champenoise) โดย Veuve Clicquot จะเก็บแชมเปญในห้องใต้ดินเป็นเวลาขั้นต่ำ 30 เดือน เพื่อพัฒนาความซับซ้อนของรสชาติ
อาหารที่เหมาะสมในการจับคู่ (Food Pairing)
เป็นแชมเปญที่เหมาะสำหรับจับคู่กับอาหารหลากหลาย เช่น
- หอยนางรมสด หรือซีฟู้ด: เสริมรสชาติความสดชื่น
- ชีสเนื้อนุ่ม เช่น Brie หรือ Camembert: เพิ่มความละมุน
- ของทอดกรอบ เช่น Tempura: ตัดความมันด้วยความเปรี้ยวของแชมเปญ
- ของหวานผลไม้ เช่น Tarte aux Fruits: เข้ากันได้อย่างลงตัว
ลักษณะรสสัมผัสและกลิ่น (Palate & Aroma)
- รสชาติ (Palate): สดชื่น มีความซับซ้อนจากโน้ตของผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลเขียวและลูกแพร์ พร้อมสัมผัสของขนมปังปิ้งและวานิลลา
- กลิ่น (Aroma): หอมกลิ่นดอกไม้และผลไม้ เช่น ดอกมะลิ เลมอน และลูกพีช
ความลงตัวของรสชาติที่เปรี้ยวหวานและความซับซ้อน ทำให้เป็นแชมเปญที่ดื่มง่าย แต่มีเอกลักษณ์
อุณหภูมิที่เหมาะในการเสิร์ฟ (Serving Temperature)
Veuve Clicquot Brut ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 8-10°C เพื่อให้รสชาติสดชื่นและสมดุลที่สุด สามารถใช้ถังน้ำแข็งแช่ขวดไว้ 20-30 นาที หรือเก็บในตู้เย็นประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ
แชมเปญที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสุดหรู หรือการดื่มด่ำในวันพักผ่อน ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน รสชาติที่ซับซ้อน และการจับคู่กับอาหารที่หลากหลาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักแชมเปญอย่างแท้จริง