คำอธิบาย
Chateau d’Armailhac Pauillac เป็นหนึ่งในไวน์ระดับ Grand Cru Classé ที่มีชื่อเสียงจากภูมิภาค Pauillac ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตไวน์แดงคุณภาพสูง ด้วยการผสมผสานองุ่นพันธุ์ต่าง ๆ อย่างลงตัว และการบ่มไวน์ในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศส ไวน์นี้จึงมีรสชาติที่เข้มข้น สมดุล และสามารถบ่มเก็บได้เป็นเวลานาน ความซับซ้อนของไวน์ Chateau d’Armailhac มาจากดินและสภาพอากาศที่เอื้อต่อการปลูกองุ่นใน Pauillac ทำให้ไวน์นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มไวน์ทั่วโลก
รางวัลและคะแนนที่ได้รับ (Reward & Score)
Chateau d’Armailhac Pauillac ได้รับคะแนนรีวิวสูงจากนักวิจารณ์ไวน์ชั้นนำทั่วโลก ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและความโดดเด่นของไวน์นี้ นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับในเวทีการแข่งขันไวน์ระดับนานาชาติอีกด้วย
ประวัติความเป็นมา วิธีการผลิตและแหล่งกำเนิด (History)
Chateau d’Armailhac ก่อตั้งขึ้นในปี 1750 โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานในการผลิตไวน์คุณภาพสูง ไร่องุ่นตั้งอยู่ในภูมิภาค Pauillac ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในแหล่งผลิตไวน์ที่ดีที่สุดใน Bordeaux กรรมวิธีการผลิตไวน์เน้นการบ่มในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศสเป็นเวลานาน ทำให้ไวน์มีความซับซ้อนและกลิ่นหอมที่โดดเด่น การผสมผสานระหว่างองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Merlot, Cabernet Franc และ Petit Verdot ช่วยสร้างรสชาติที่หลากหลายและสมดุล
ลักษณะรสสัมผัสและกลิ่น (Palate & Aroma)
ไวน์ Chateau d’Armailhac Pauillac มีรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อน ด้วยกลิ่นหอมของผลไม้สีเข้ม เช่น แบล็คเคอแรนท์ เชอร์รี่ และพลัม ผสานกับกลิ่นหอมของโอ๊ค วานิลลา และเครื่องเทศ สัมผัสในปากจะรู้สึกถึงความสมดุลและความเข้มข้น พร้อมด้วยรสชาติที่ยาวนานในลำคอ ทำให้ไวน์นี้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักดื่มไวน์ที่ต้องการรสชาติที่หลากหลายและสมบูรณ์แบบ
อาหารที่เหมาะสมในการจับคู่ (Food Paring)
ไวน์ Chateau d’Armailhac Pauillac เหมาะสำหรับการจับคู่กับอาหารประเภทเนื้อแดง เช่น สเต็ก เนื้อย่าง หรือแกะ รวมถึงอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิก เช่น เนื้อเป็ดหรือคาสซูเลต์ การจับคู่กับชีสเนื้อแข็ง เช่น บลูชีส หรือชีส Comté จะช่วยเสริมรสชาติของไวน์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
อุณหภูมิที่เหมาะในการเสิร์ฟ (Serving)
ไวน์ Chateau d’Armailhac Pauillac ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิระหว่าง 16-18 องศาเซลเซียส เพื่อให้รสชาติและกลิ่นหอมเปิดเผยอย่างเต็มที่ ควรเปิดขวดไวน์ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนดื่ม เพื่อให้ไวน์ได้มีเวลา “หายใจ” และพัฒนาอโรมาได้อย่างเต็มที่